การจัดแสงไฟในห้องต่างๆ

หน้าแรก เกร็ดความรู้ การจัดแสงไฟในห้องต่างๆ

1. ห้องนอน : การจัดแสงในห้องนอน หลักๆก็เพื่อทำให้เกิดบรรยากาศที่สงบและอบอุ่น รวมทั้งทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายเนื่องจากเราใช้ห้องนอนเป็นห้องสำหรับพักผ่อนเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นแสงไฟที่เรานำมาใช้ในห้องนอนจึงเป็นแสงไฟประเภทส่องสว่างทั่วไป ซึ่งเราสามารถเลือกใช้หลอดไฟทั่วไป หรือไฟซ่อนผนัง รวมทั้งโคมไฟห้อยขนาดเล็ก โดยเลือกที่มีแสงสว่างเพียงพอสำหรับทำกิจกรรมภายในห้อง

2. ห้องอาหาร : นอกเหนือจากการใช้หลอดไฟปกติในห้องอาหารเพื่อให้สว่างและดูสะอาดตาแล้ว สิ่งสำคัญคือโต๊ะอาหารที่เราครัวเน้นเลือกใช้ไฟห้อยขนาดเล็กเหนือโต๊ะรับประทานอาหารได้อีกด้วย โดยการเลือกใช้โคมไฟห้อยเหนือโต๊ะควรเล็กกว่าด้านกว้างของโต๊ะประมาณ 6-12 นิ้ว และอยู่เหนือโต๊ะประมาณ 30 นิ้ว และสามารถสร้างบรรยากาศโรแมนติกด้วยแสงไฟโทนเหลือง อบอุ่น เพิ่มบรรยากาศและสีสันของอาหาร

3. ห้องน้ำ : สำหรับห้องน้ำที่มีกระจกสำหรับแต่งตัว หรือโต๊ะเครื่องแป้ง เราควรใช้ดวงไฟ ติดรอบๆหรือติดด้านบนกระจกโดยใช้ไฟที่มีแสงที่อ่อนนุ่ม เพื่อป้องกันแสงสะท้อนในกระจกภายในห้องน้ำ เน้นความสว่างในส่วนทางเดินไม่ให้ลื่นล้ม หรือสะดุดง่าย สำหรับส่วนอาบน้ำชำระล้าง ควรมีแสงที่สว่างเพียงพอและใช้แสงสีขาวดูเป็นธรรมชาติ อย่าลืมเปิดช่องแสงธรรมชาติให้แสงแดดเข้ามาฆ่าเชื่อโรคด้วย

4. ห้องนั่งเล่น : ห้องนั่งเล่นนับเป็นห้องที่ใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย รวมถึงเป็นศูนย์รวมของคนภายในบ้าน การจัดแสงภายในห้องสามารถใช้แสงหลายๆลักษณะประกอบกันเพื่อสร้างบรรยากาศภายในห้องตามรสนิยมของคนภายในบ้าน เน้นประโยชน์ใช้สอย และความสวยงามในจุดต่างๆ อย่างเช่นใช้ไฟสำหรับทำงานเช่น โคมไฟตั้งโต๊ะ หรือไฟเน้นเฉพาะจุดผสมผสานกันในการตกแต่งห้อง เพื่อให้เราสามารถทำกิจกรรมเช่น อ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ได้อย่างสะดวก รวมทั้งใช้แสงไฟเฉพาะจุดในการเน้นงานศิลปะตกแต่งห้องเช่น ภาพวาด หรือตู้โชว์ เป็นต้น

5. ห้องครัว : โดยทั่วไปในห้องครัวซึ่งใช้ทำอาหารเรามักใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซ้นท์ธรรมดาเพื่อให้แสงในการทำอาหาร ที่สว่างทั่วถึง เพราะให้แสงที่เกิดเงามึดน้อยกว่างเพราะเกิดจากการกระจายแสงต่างจากหลอดไส้ อย่างไรก็ตามในมุมมึด โดยเฉพาะเคาน์เตอร์ครัว ที่เป็นมุมอับแสงควรให้แสงสว่างด้วยหลอดซ่อนใต้ตู้ลอยหรือใต้ เครื่องดูดควัน

6. ห้องทำงาน : ในห้องทำงานควรเป็นแสงที่มาจากธรรมชาติ เพราะแสงจากธรรมชาตินั่นหนาเน่นดีที่สุด ถ้าเป็นไปได้ให้จัดโต๊ะทำงานในบริเวณที่รับแสงจากภายนอกได้ อาจจะเป็นริมหน้าต่างหรือระเบียงบ้านก็ได้ หรือจะปรับขยายหน้าต่าง ติดตั้งม่านหรือมู่ลี่เพื่อปรับระดับแสงไปตามแต่เวลาที่เหมาะสม แต่แสงธรรมชาติก็จะได้ผลเฉพาะเวลากลางวันเราจึงต้องนำแสงของหลอดไฟมาช่วย แสงของหลอดไปก็จะแบ่งเป็น 2 ชนิด คือแสงจากหลอดฮาโลเจน และหลอดฟลูออเรสเซนต์ แต่ต้องเป็นแสงสีขาว เพราะจะให้แสงสีไม่เพี้ยนจากธรรมชาติโดยเฉพาะคนที่ทำงานศิลปะ จะเห็นได้ว่านอกจากการใช้หลอดไฟส่องสว่างทั่วไปในห้อง เราสามารถเลือกใช้ไฟประเภทต่างๆตามความเหมาะสม และความต้องการเพื่อเพิ่มเติมบรรยากาศให้ดียิ่งขึ้นได้ ขึ้นกับการประยุกต์ใช้และความสนใจของเจ้าของห้อง ซึ่งการตกแต่งห้องโดยการจัดแสงเป็นทางเลือกหนึ่งซึ่งเราสามารถทำได้อย่างง่ายๆ ยังไงลองดูห้องต่างๆภายในบ้านและลองนำไปประยุกต์ใช้ดูนะครับ TIPS ในห้องนอนเราจึงสำคัญอย่างยิ่งที่จะไม่ทำงานในห้อง เพราะเวลาที่เรานั่งทำงาน แสงสว่างที่เหมาะกับการทำงานก็คือ แสงสีขาว หรือที่เรียกว่าแสง day light แต่แสงที่เหมาะกับกิจกรรมเบาๆก่อนนอน คือ แสงกึ่งเหลืองกึ่งขาว (cool white) ไปจนถึงแสงสีเหลืองส้ม (warm white) ที่ทำให้วัตถุดูมีสีสันสดใสมีชีวิตชีวา มากขึ้น


ขอขอบคุณ: www.homepro.co.th