ต้นกรรณิการ์

หน้าแรก ต้นไม้ ต้นกรรณิการ์

กรรณิการ์ เป็นไม้ที่มีกลิ่นหอมแรง โดยจะบานตอนกลางคืน ออกดอกตลอดปี นอกจากจะเป็นไม้ที่หอมแล้วกรรณิการ์ยังเป็นสมุนไพรอีกด้วย และ ฐานรองดอกก็สามารถนำมาทำสีย้อมผ้าและสีทำขนมได้ด้วย

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ 


กรรณิการ์ เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กสูงประมาณ 2 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ๆ สลับกันไปตามข้อของต้น มีขนอ่อนๆ ปกคลุมอยู่ทั่วใบ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่รี ปลายแหลม ขอบใบเรียบ ออกดอกเป็นช่อ ช่อหนึ่งมีดอกราว 5-8 ดอก แต่ละดอกจะผลัดกันบาน ดอกมีสีขาวมี 6 กลีบ ลักษณะคล้ายกังหัน ขนาดดอกประมาณ 1.5-2 ซม. แต่ละดอกจะมีใบประดับ 1 ใบ กลีบดอกโคนติดกันเป็นหลอดสีแสดยาว 1.5 ซม.

ฤดูกาลออกดอก ออกดอกตลอดปี แต่ออกดอกมากช่วงปลายฝนต้นหนาว

การขยายพันธุ์   เพาะเมล็ด, ตอนกิ่ง, ปักชำกิ่ง 


การปลูกและดูแลรักษา กรรณิการ์เป็นไม้ที่ชอบที่ร่มรำไรและมีความชุ่มชื้นพอควร ดินที่ใช้ปลูกควรจะเป็นดินอุดมสมบูรณ์ ร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ไม่ควรมีน้ำขังอยู่ ซึ่งอาจจะทำให้รากเน่าได้ ต้องการน้ำเพียงปานกลางเท่านั้น

ข้อดีของพันธุ์ไม้    ออกดอกให้ชมได้บ่อย ดอกใน 1 ช่อจะทยอยบาน จึงทำให้ได้ชมดอกหลายวัน 
ไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวน

ข้อแนะนำ    เป็นพันธุ์ไม้หอมที่ควบคุมทรงพุ่มได้ค่อนข้างยาก มีการแตกของกิ่งก้านไม่เป็นระเบียบ 
ต้องควบคุมทรงพุ่มโดยการตัดแต่งภายหลังการออกดอก 
เมื่อปลูกไปได้ระยะหนึ่ง 2- 3 ปี ควรมีการตัดแต่งครั้งใหญ่ (ทำสาว) ครั้งหนึ่งเพื่อให้ได้กิ่งใหม่ 
โดยธรรมชาติกรรณิการ์จะเจริญเติบโตในที่ได้รับแสงแดดประมาณครึ่งวัน (แดดเช้า)

แต่ก็สามารถปลูกในที่มีแดดเต็มวันแต่ขนาดใบและดอกจะเล็กลง สีใบจะซีด

ใบค่อนข้างกระด้างอาจทำให้เกิดผื่นคันให้กับผิวหนังกับผู้ที่มีอาการแพ้ได้บ้าง
  
ข้อมูลอื่นๆ   ดอก  ให้สารสีเหลือง ใช้ในการย้อมผ้าของคนโบราณ 
ต้น  แก้ปวดศีรษะ  ใบ บำรุงน้ำดี 
ดอก  แก้ไข้และลมวิงเวียน 
ราก  แก้อุจจาระเป็นพรรดึก บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้ผมหงอก บำรุงผิวหนังให้สดชื่น 
ต้นและราก  ต้มรับประทานแก้ไอ 

ขอขอบคุณ: panmainaiban.blogspot.com