เข้าชม 44,812
ต้นลีลาวดี หรือ ต้นลั่นทม ถือว่าเป็นไม้ดอกกลิ่นหอมที่นิยมปลูกกันมากในสวนทั้งในสวนสาธารณะ หรือแม้กระทั่งสวนในบ้าน ถึงแม้ว่าตามตำราความเชื่อจะบอกว่า "ไม่ควรปลูก" ไม้ดอกชนิดนี้ไว้ในบ้านก็ตาม เนื่องจากชื่อเดิมคือ "ลั่นทม" ไปพ้องกับคำว่า "ระทม" ซึ่งแปลว่า เศร้าโศก ทุกข์ใจ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น "ลีลาวดี" ไม้ดอกชนิดนี้ จึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่เจ้าของบ้าน รวมไปถึงผู้ที่ชื่นชอบไม้ดอกนิยมปลูกกัน
สำหรับในวันนี้ขอนำข้อมูลของเจ้า ลีลาวดี ไม้ดอกกลิ่นหอม ๆ ชนิดนี้มาฝากกัน ไปดูกันซิว่าถ้าหากอยากจะปลูกต้นลีลาวดีจะต้องทำอย่างไรบ้าง ไปชมกันเลยจ้า...
ลักษณะของต้นลีลาวดี
ลีลาวดีเป็นไม้ดอกที่มีสีสันสวยงาม ไม่หลากหลายสีให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น ขาว เหลืองอ่อน แดง ชมพู ฯลฯ บางดอกก็มีมากกว่า 1 สี นอกจากนี้ความพิเศษของลีลาวดีที่หลาย ๆ คนตกหลุมรัก น่าจะเป็นกลิ่นหอมนุ่ม ๆ ของมัน ที่ไม่หอมเตะจมูกจนเกินไป แต่หอมหวานกำลังดี อีกทั้งบางคนยังชื่นชอบลักษณะลำต้น ที่กิ่งก้านกระจายไม่แน่นหนา ทำให้แสงและเงาจากดวงอาทิตย์ส่องผ่านมาได้รำไร ๆ
สำหรับต้นลีลาวดี มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา พบในบริเวณพื้นที่ตั้งแต่ประเทศเม็กซิโกตอนใต้ถึงตอนเหนือของทวีปอเมริกา มีขนาดตั้งแต่พุ่มเตี้ยแคระสูงประมาณ 0.9 - 1.2 เมตร จนถึงต้นที่สูงมาก และบางต้นอาจสูงถึง 12 เมตร
- ลำต้น แตกกิ่งก้านสาขาและพุ่มใบสวยงาม มีน้ำยางสีขาวข้น เป็นไม้ผลัดที่สลัดใบในฤดูแล้ง ก่อนที่จะผลิดอกและผลิใบรุ่นใหม่
- กิ่ง ถ้าหากเป็นกิ่งที่ยังไม่แก่ จะมีสีเขียวอ่อนนุ่ม ดูเกือบจะอวบน้ำ ส่วนกิ่งแก่มีสีเทามีรอยตะปุ่มตะป่ำ กิ่งไม่สามารถทานน้ำหนักได้ กิ่งเปราะ เปลือกลำต้นหนาต้นที่โตเต็มที่แล้วจะพัฒนาจนกระทั่งมีความแข็งแรงมากขึ้น
- ใบ เป็นใบเดี่ยว มีการเรียงตัวแบบสลับและหนาแน่นใกล้ปลายกิ่ง มีลักษณะแตกต่างกันไปทั้งรูปร่าง ขนาด สี และความหนาแน่น โดยทั่วไปใบจะหนา เหนียวแข็ง และมีสีตั้งแต่สีเขียวอ่อนถึงสีเขียวเข้ม มีเส้นกลางใบแตกสาขาออกไปคล้ายขนนก ขนาดใบแตกต่างกัน
- ช่อดอก ดอกจะผลิออกมาจากปลายยอดเหนือใบ เห็นเป็นช่อดอกใหญ่สวยงาม แต่ก็มีบางชนิดที่ออกช่อดอกระหว่างใบ หรือใต้ใบบางชนิดห้อยลงบางชนิดตั้งขึ้น ในหนึ่งช่อจะมีดอกบานพร้อมกัน 10 – 30 ดอก บางต้นที่มีความสมบูรณ์เต็มที่อาจมีดอกมากกว่า 100 ดอก ต่อ 1 ช่อ
ลีลาวดี จะออกดอกประมาณเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน บางพันธุ์สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปีลักษณะของ ดอก โดยทั่วไปจะมีขนาดใหญ่ถึงกลาง ยกเว้นบางพันธุ์ที่มีขนาดเล็ก กลีบดอกมี 5 กลีบ
สายพันธุ์ของต้นลีลาวดี
ภาพจาก สวนนัทธรัตน์
- Belle Vista มีชื่อไทยว่า สุปราณี พิงค์ เป็นพันธุ์ที่ออกดอกง่าย ดอกมีสีชมพูหวาน ขนาดดอกกลาง ๆ ไม่ใหญ่มาก ลักษณะกลีบดอกหน้านอกเป็นสีชมพูเข้มไล่อ่อน กลีบดอกด้านในเป็นสีเหลือง ส่วนลำต้นจะไม่ใหญ่มาก ความสูงไม่เกิน 1-2 เมตร
- Madam Poni เป็นลีลาวดีลูกผสมที่ลักษณะดอกแปลกกว่าทั่วไป ดอกต้นเดียวกันบานพร้อมกันก็ยังไม่ค่อยเหมือนกัน บางทีเรียกกันว่าค็อกสกรู (Cockscrew) หรือสตาร์ (Star) ตามลักษณะกลีบดอกที่บิดและเป็นแฉกปลายแหลม 5 แฉกคล้ายดาว ดอกมีกลิ่นหอมมาก
ภาพจาก plumeriaparadise
- Aztec Gold เป็นลีลาวดีที่ดอกมีกลิ่นหอมเฉพาะคล้ายกลิ่นลูกท้อสุก ใบมีลักษณะรูปหอก ปลายแหลมสีเขียวมะกอด ก้านใบสีเขียวเหลือบแดง เมื่อตอนบานใหม่ ๆ จะเป็นสีทองเข้ม มีแถมชมพูแซมจากด้านหลัง แต่พอนานไป ขอบกลีบจะค่อย ๆ เปลี่ยนสีเป็นสีขาว
ภาพจาก davesgarden
- Pink Pansy เป็นลีลาวดีไม้นอกพันธุ์แท้ สีขาว-ชมพู ดอกขนาดกลาง-ใหญ่ ดอกกลม ทรงดอกเป็นรูปถ้วย ออกดอกดกตลอดทั้งปี ช่อใหญ่ มีกลิ่นหอมมาก ๆ หอมโชยแบบหอมหวาน ขนาดต้นสูงพอประมาณ ขนาด 1.5 เมตร
- Moonlight เป็นลีลาวดีสีเหลืองอ่อน ออกดอกเป็นช่อใหญ่ ก้านดอกมีความแข็งแรง ทรงต้นไม่ใหญ่มาก สามารถปลูกในพื้นที่ไม่มากได้ จัดเป็นลีลาวดีที่ได้รับความนิยม
ภาพจาก plumeriaparadise
- India เป็นพันธุ์ลีลาวดีแดง (Plumeria ruba) เป็นลูกผสมที่สวยทั้งดอกและใบ ดอกใหญ่สีเหลืองอมส้ม กลิ่นหอมเหมือนผลไม้ ใบมันเงาเล็กน้อย แตกกิ่งในแนวตั้ง ช่วงกิ่งยาว
ภาพจาก alohaplumeria
- Puu Kahea มีชื่ออื่นอีก คือ O Sullivan และ Fiesta เกิดจากการผสมเกสรโดยธรรมชาติของลีลาวดีแดง 2 สายพันธุ์ คือ Plumeris robra forma acuminata กับ Plumeria rubra เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ ทรงพุ่มแน่น ใบรูปหอกกลับปลายเรียวแหลม แผ่นใบแข็งสีเขียวขอบแดง ก้านใบสีเขียวเหลือบแดง ดอกใหญ่กลิ่นหอมอ่อน ๆ ไม่แรงมาก
ภาพจาก frangipaniworld
- Kimi Moragne ในประเทศไทยเรียกว่า เกรนนี่โรรอง เป็นลีลาวดีสีชมพูอมสีม่วง มีกลิ่นหอมและช่อดอกขนาดใหญ่ ประมาณ 4 นิ้ว เป็นลูกผสมระหว่าง เกสรตัวผู้ Scott Pratt กับเกสรตัวเมีย Daisy Willcox เป็นลีลาวดีที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก มีกลิ่นหอม และมีดอกติดต้นประมาณ 8 เดือนในหนึ่งปี
ภาพจาก Plumarin.com
- My Valentine เป็นลีลาวดีที่มีกลีบดอกโต กลีบดอกมีขาว-ชมพู กลิ่นหอมหวานคล้ายดอกกุหลาบ
ภาพจาก อาศรมลีลาวดี
- ขาวพวงแคระ เป็นไม้พุ่มเตี้ย ต้นสูงไม่เกิน 1.5- 2 เมตร กลีบดอกเป็นรูปรีสีขาวสะอาด ตรงกลางมีสีเหลืองสดอย่างเห็นได้ชัด ขนาดดอก 3 นิ้ว ออกเป็นช่อตามซอกใบใกล้ ปลายยอด แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยไม่น้อยกว่า 40-50 ดอก ช่อดอกตั้งขึ้นปลายแยกเป็นกลีบดอก 5 กลีบ ซ้อนเหลื่อมกันเล็กน้อย
ภาพจาก สวนลีลาภิรมย์
- พวงหยก เป็นลีลาวดีสีเหลืองอมส้มอ่อน กลีบดอกกลมใหญ่ ขอบกลีบสีแดงเข้ม หลังดอกมีสีแดง กลิ่นหอมอ่อน บานเป็นช่อ
ภาพจาก ภรรัตน์การ์เด้น
- เพชรพัชราภรณ์ เป็นลีลาวดีที่มีไม้สีเนื้อ หรือสีน้ำตาล มีช่อดอกแน่นเป็นกระจุก ทรงต้นคอมแพ็ค เหมาะสำหรับคนพื้นที่ไม่มากด้วย พอออกดอกแรก ๆ จะสีมีน้ำตาลอ่อน ๆ แล้วค่อยจางเป็นสีเนื้อ มีกลิ่นหอม ส่วนใบจะสีเส้นสีแดงพาดอยู่
- เหลืองศิริมงคล เป็นลีลาวดีที่พบในประเทศไทยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง มีสีเหลืองสด กลิ่นหอมจาง ๆ ลักษณะกลีบดอกจะเล็ก ๆ เมื่อบานแล้วมองดูคล้ายรูปดาว
- สังวาลย์ทับทิม เป็นลีลาวดีที่เป็นลูกไม้ใหม่มาแรง กลีบดอกเป็นสีชมพูออกเป็นบานเย็น ฟอร์มดอกกลมมีขนาดดอกใหญ่ ช่อดอกดกพอสมควร
ภาพจาก jack-garden
- พันธุ์ขาวพวง เป็นพันธุ์ลีลาวดีโบราณดั้งเดิมที่มีในประเทศไทยแรก ๆ จะเห็นตามวังเก่า ๆ หรือวัดทั่ว ๆ ไป ออกดอกดกมาก ช่อดอกใหญ่มี 10-15 ดอก มีกลิ่นหอมเย็น ๆ
ประโยชน์ของต้นลีลาวดี
แน่นอนว่า ประโยชน์ของ ต้นลีลาวดี นอกจากจะให้ร่มเงา ให้ดอกสีสันสวยงาม และมีกลิ่นหอมแล้ว รู้ไหมคะว่า พันธุ์ที่นิยมปลูกเพื่อจัดสวน และ ตกแต่งภูมิทัศน์มากที่สุดนั้นก็คือ "พันธุ์ขาวพวง" ซึ่งเป็นพันธุ์ดั้งเดิม ที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว อีกทั้งยังออกดอกได้ตลอดทั้งปีด้วยนะ ส่วนสรรพคุณทางยาของ ต้นลีลาวดี ก็มีมากไม่แพ้ต้นไม้อื่น ๆ เลยล่ะค่ะ
สรรพคุณของต้นลีลาวดี
- ต้น ใช้ปรุงเป็นยารักษาโรคลำไส้พิการของม้า
- ใบ ใบแห้งชงน้ำร้อนดื่มรักษาโรคหอบหืด ใบสดลนไฟประคบร้อนแก้ปวด บวม
- เปลือกราก เป็นยารักษาโรคหนองใน ยาถ่าย แก้โรคไขข้ออักเสบ ขับลม
- เปลือกต้น ต้มเป็นยาถ่าย ขับระดู แก้ไข้ แก้โรคโกโนเรีย หรือผสมกับน้ำมันมะพร้าว, ข้าว, มันเนยเป็นยาแก้ท้องเดิน ยาถ่าย ขับปัสสาวะ
- ดอก ใช้ทำธูป ใช้ผสมกับพลูเป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้มาลาเรีย
- เนื้อไม้ เป็นยาแก้ไอ ยาถ่าย ขับพยาธิ
- ยางจากต้น เป็นยาถ่าย รักษาโรคไขข้ออักเสบ ใช้ผสมกับไม้จันทน์และการบูรเป็นยาแก้คัน แก้ปวดฟัน
วิธีการปลูกต้นลีลาวดี
- การปลูกต้นลีลาวดีในกระถาง
ต้นลีลาวดี จะเติบโตอย่างดีต่อวัสดุปลูกที่มีความอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง และได้รับปุ๋ยเสริมตามความเหมาะสม สัดส่วนการปลูกที่แนะนำโดยทั่วไปคือ ใช้มูลวัวที่ย่อยสลายแล้ว,ใบไม้ผุ และดิน ในอัตราส่วน 2:1:1 แต่วัสดุปลูกที่มีขนาดเล็กละเอียดเมื่อถึงระยะหนึ่งจะอัดตัวแน่นทำให้รากพืชขาดออกซิเจน น้ำขังไม่สามารถระบายได้ ทำให้เกิดโรครากเน่าได้
- การปลูกต้นลีลาวดีลงดินในแปลงปลูก
การปลูกต้นลีลาวดีต้นหนึ่งต้องใช้พื้นที่ประมาณ 5 ตารางเมตร ซึ่งดินร่วนปนทรายเป็นดินที่เหมาะสมที่สุดในการปลูก ส่วนในดินนั้นควรมีอินทรียวัตถุที่เหมาะสม สามารถดูดความชื้นได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันต้องสามารถระบายน้ำได้ดี มีความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ในช่วง 6.5-7.5
การดูแลรักษาต้นลีลาวดี
ต้นลีลาวดี สามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่กันดาร ดินไม่อุดมสมบูรณ์มากนัก แต่ถ้าต้องการให้ลีลาวดีออกดอกได้ดีควรนำไปปลูกในกระถางและใช้ดินที่เป็นกรดเหมือนกับพืชเขตร้อนทั่วไป ลีลาวดีชอบความชื้นในอากาศสูงและไม่ชอบอยู่ในดินที่มีน้ำท่วมขังหรือมีการรดน้ำบ่อยครั้ง การปลูกควรเน้นการระบายน้ำหรือการยกร่องในแปลงปลูกเป็นหลัก ลีลาวดีเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดในเวลากลางวันอย่างน้อยครึ่งวัน แต่หลายชนิดต้องการแสงแดดเต็มวัน ยกเว้นบางชนิดที่มีดอกสีแดงซึ่งจะชอบการพรางแสงมากกว่า
- 1. การให้น้ำ
การปลูกในกระถาง : การให้น้ำควรรดให้ดินเปียกทั่วถึง จนน้ำส่วนเกินถูกระบายออกมาทางรูระบาย สำหรับการรดน้ำนั้น ควรรดวันเว้นวัน
การปลูกลงดิน : ควรให้น้ำแต่น้อยให้ประมาณสัปดาห์ละครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพความชื้นในอากาศ ถ้าอากาศร้อนควรให้น้ำมากกว่าปกติ เพื่อรักษาความเขียวของใบ แต่การให้น้ำมากเกินอาจจะส่งผลให้ลีลาวดีไม่ออกดอก
- 2. การให้ปุ๋ย
ควรให้ปุ๋ยไนโตรเจน ฟอสฟอรัสและโปแตสเซียมในอัตราส่วนที่เท่ากัน เนื่องจากต้นลีลาวดี เป็นต้นไม้ที่รูปทรงสวยงาม ถ้าหากให้ไนโตรเจนมากเกินไปจะทำให้ลำต้นสูงชะลูดดูไม่สวยงาม สำหรับธาตุอาหารรองที่จำเป็นต่อลีลาวดีนั้น คือ แมกนีเซียม ทองแดง เหล็ก สังกะสี กำมะถัน และแมงกานีส
การขยายพันธุ์ต้นลีลาวดี
1. การเพาะเมล็ด จะใช้ฝักที่แก่จัด ส่วนใหญ่ใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ ซึ่งเมล็ดลีลาวดีงอกได้ง่าย แต่ละฝักของลีลาวดีจะได้ต้นกล้าประมาณ 50 -100 ต้น สามารถเพาะในกระถางเพาะได้เลย
2. การปักชำ ถือว่าเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็ว อีกทั้งยังคงรักษาพันธุ์เดิมเอาไว้ด้วย
3. การเปลี่ยนยอด จะใช้ในกรณีที่ได้พันธุ์ดีแล้วนำมาเปลี่ยนยอดบนต้นตอที่เพาะกล้าไว้แล้วอาจจะเสียบข้างหรือผ่าเป็นลิ่ม วิธีนี้ต้องป้องกันไม่ให้น้ำเข้า ไม่เช่นนั้นแผลจะเน่า
4. การติดตา ใช้ในกรณีที่ได้ตามีไม่มากนัก เป็นการขยายพันธุ์แบบประหยัด กิ่งหนึ่งสามารถขยายพันธุ์ได้เป็นจำนวนมาก
ถ้าหากใครที่ชื่นชอบไม้ดอกที่ให้กลิ่นหอมนุ่ม ๆ สีสันสวยงาม แถมยังให้ร่มเงาได้ด้วย ต้นลีลาวดีก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะจะนำมาประดับให้สวนของคุณ ๆ ดูร่มรื่นและน่าอยู่ที่สุดเลยล่ะค่ะ
ขอขอบคุณ: home.kapook.com