สปริงเกอร์ คืออะไร มีกี่ชนิด

หน้าแรก สปริงเกอร์ QRwater.com สปริงเกอร์ คืออะไร มีกี่ชนิด

สปริงเกอร์ คือ การฉีดน้ำออกจากอุปกรณ์ออกไปยังปลายทางที่ต้องการ

ส่วนชนิดของสปริงเกอร์นั้นมีหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับชนิดของต้นไม้ เนื่องจากต้นไม้บางชนิดก็ใช้หัวแบบเดียวกัน แต่บางชนิดก็ต้องใช้หัวสปริงเกอร์อีกแบบหนึ่ง ขึ้นกับว่าต้นไม้นั้นต้องการปริมาณมากหรือน้อย และใช้แรงดันต่ำหรือสูง วันนี้ QRwater ก็จะมาเล่าให้ฟัง ว่าควรใช้หัวแบบไหนดี

 

ชนิดหัวสปริงเกอร์

ชนิดของหัวสปริงเกอร์ มีหลายชนิด ถ้าหากแบ่งตามลักษณะ การจ่ายน้ำ จะแบ่งได้ดังนี้

หัวแบบมินิสปริงเกอร์ MiniSprinkler

หัวมินิสปริงเกอร์ชนิดนี้จะจ่ายน้ำในอัตราที่ไม่สูง จะมีทั้งแบบน้ำหยด และแบบหัวเหวี่ยงขนาดเล็ก หรือฉีดเป็นสเปร์คล้ายๆ กับ พ่นหมอก รัศมีการจ่ายน้ำจะไม่มาก ช่วง 1-4 เมตร หัวจ่ายน้ำแบบนี้จะเหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กๆ หรือไม้พุ่ม

QRwater

 

หัวแบบสเปรย์ spray

สามารถขึ้นลง (Popup) ตาม แรงดันของน้ำ ปรับองศาได้ตั้งแต่ 0-360 องศา รัศมีในการฉีด 2-5 เมตร เหมาะกับพื้นที่สนามหญ้ษ หรือไม้พุ่ม

QRwater

 

หัวแบบโรเตเตอร์ rotor

หัวนี้จะฉีดน้ำไปทีละองศาจะเป็นเส้น แต่ให้รัศมีการฉีดที่ไกล เริ่มต้นที่ 5เมตร บางหัวฉีดได้ไกลประมาณ 20-30 เมตรเลยทีเดียว การเลือกใช้หัวนี้ต้องการมีคำนวนเรื่องปั้มให้เหมาะสม

QRwater

สปริงเกอร์ หัวแบบโรเตเตอร์ rotor

หัวสปริงเกอร์อยู่เหนือดิน (above ground)

มินิสปริงเกอร์ หัวน้ำหยด impact, Rotor หัวชนิดนี้จะง่ายในการบำรุงรักษา หากใช้วัสดุเดียวกันอายุการใช้งานจะน้อยกว่าแบบใต้ดินเนื่องจากโดยแดดทำให้พลาสิกกรอบง่าย

 

หัวสปริงเกอร์อยู่ใต้ดิน (under ground)

โดยหัวนี้จะซ่อนใต้ดิน เมื่อมีแรงดันน้ำที่เหมาะสมจะโผล่ขึ้นมาเหนือดิน แต่บางครั้งก็สามารถใช้หัว popup บนดินได้เช่นกัน

 

 

สปริงเกอร์สวนเกษตร เหมาะสำหรับพืชผัก ผลไม้ ที่ต้องการปริมาณน้ำ ปานกลาง

มินิสปริงเกอร์

QRwater

มินิสปริงเกอร์ เหมาะสำหรับสวนเกษตรสมัยใหม่ ที่ต้องการประหยัดน้ำ ให้ปริมาณน้ำน้อย ทำให้ประหยัดขนาดท่อ และขนาดปั๊ม มินิสปริงเกอร์ มี2 แบบ กระจายน้ำน้อย และกระจายน้ำมาก

แบบกระจายน้ำน้อย - ลักษณะการกระจายน้ำ จะมีทั้งแบบแคบ (หัวฉีดสำหรับต้นไม้ปลูกระยะประชิด พุ่มเล็ก) และแบบไกล (หัวฉีดแบบใบพัดเหวี่ยง สำหรับต้นไม้พุ่มใหญ่ คลุมพื้นที่บริเวณกว้าง)  โดยส่วนมาก มินิสปริงเกอร์รดน้ำ แบบนี้เหมาะ สำหรับให้น้ำใต้ต้นพืช หรือ ในบริเวณพื้นที่ ที่ลมไม่แรงและต้องการประหยัดน้ำ

แบบกระจายน้ำมาก - ลักษณะการให้น้ำ มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบพุ่งกระจาย หมุนเป็นเกลียวออก 2 ด้าน หรือแบบเป็นเม็ดฝอย ขนาดใหญ่รอบทิศทาง เหมาะสำหรับการให้น้ำ เหนือต้นพืช ซึ่งมินิสปริงเกอร์รดน้ำแบบนี้ นิยมใช้กันมากเนื่องจาก การให้น้ำที่รวดเร็วและลดปัญหาการอุดตัน

 

สปริงเกอร์ Pop up

QRwater

สปริงเกอร์ POP UP สามารถโผล่ขึ้น ลง ตามแรงดันของน้ำ เหมาะสำหรับ สนามหญ้า เพื่อให้ง่ายต่อการตัดหญ้าและทำให้ภูมิทัศน์แลดูสวยงาม ส่วนมากจะสามารถปรับองศาการฉีดน้ำได้ และมีรัศมีตั้งแต่ 1.8เมตร เป็นต้นไป

 

สปริงเกอร์ impact

QRwater

สปริงเกอร์ IMPACT เหมาะสำหรับพืชไร่ ขนาดใหญ่ ที่มีพื้นที่มากๆ หัวมีรัศมีค่อนข้างไกล ทำให้ใช้หัวน้อยลง แต่จะต้องใช้กับท่อใหญ่

 

สปริงเกอร์  Biggun

QRwater

สปริงเกอร์BIG GUN เหมาะสำหรับ สนามฟุตบอล จ่ายน้ำรัศมีกว้าง ใช้น้ำและแรงดันมาก เป็นระบบใหญ่ ที่ใช้งบมาก

 

 

สปริงเกอร์ หัวน้ำหยด

QRwater

หัวน้ำหยด เหมาะสำหรับพื้นที่ ที่ไม่ต้องอาศัยแรงดัน ประหยัดน้ำ แต่ใช้เวลาทำงานมากกว่า สปริงเกอร์รดน้ำ รูปแบบนี้ จะมีลักษณะการให้น้ำเป็นหยด ซึ่งมีอัตราการให้น้ำน้อย อยู่ที่ประมาณ 8 ลิตร/ชม. แรงดันน้ำประมาณ 1 บาร์ สปริงเกอร์แบบน้ำหยด เหมาะสำหรับพืช ที่ต้องการน้ำน้อย หรือ พื้นที่ขาดแคลนน้ำ รวมถึงพืชอายุสั้น (พืชไร่ พืชผัก ไม้กระถาง) แต่ไม่เหมาะกับการใช้งาน กับพืชยืนต้น เนื่องจากต้องใช้ปริมาณ หัวสปริงเกอร์รดน้ำ จำนวนมาก หลายจุดต่อต้น ทำให้เกิดความยุ่งยากในการต่อ

 

สปริงเกอร์ หัวพ่นหมอก

QRwater

สปริงเกอร์หัวพ่นหมอก ใช้ปริมาณน้ำน้อย ให้ละอองละเอียด เหมือนหมอก มีลักษณะการให้น้ำเป็นฝอย ละอองขนาดเล็กมาก ฟุ้งกระจาย คลุมพื้นที่ประมาณ 2 เมตร. แรงดันไม่เกิน 4 บาร์  สปริงเกอร์รดน้ำชนิดนี้ ส่วนมากจะเหมาะสำหรับ ติดตั้งในระบบโรงเรือน เพื่อให้ความชื้นในพื้นที่ลมสงบ ใช้กับสวนกล้วยไม้ โรงเห็ดหรือ ใช้ลดอุณหภูมิของบ้านในหน้าร้อน ช่วยสร้างบรรยากาศในร้านอาหาร

 

ข้อดี-ข้อเสียของสปริงเกอร์

ข้อดี

ข้อดีของ ระบบน้ำ แบบสปริงเกอร์และมินิสปริงเกอร์นั้น ก็คือ การกระจายน้ำได้ทั่วถึง และเป็นลักษณะ การกระจายน้ำแบบวงกว้าง ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ เพาะปลูก ที่มีพืชหนาแน่น หรือต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น ให้กับพื้นที่ปลูกแบบทั่วถึง เหมาะกับงานชาวสวน ชาวไร่ ที่จำนวนเยอะ ประหยัดเวลา และยังช่วยลดแรงงาน และลดค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย

ข้อเสีย

ระบบน้ำแบบสปริงเกอร์และมินิสปริงเกอร์นั้นหลักๆ แล้วเป็นเรื่องของแรงดันน้ำที่จะต้องได้ขนาดความแรงที่กำหนดเพื่อขับดันน้ำในแต่ละจุด ระบบน้ำแบบสปริงเกอร์นั้น ต้องการ 4 บาร์ เป็นต้นไป ขึ้นอยู่กับขนาด หัวสปริงเกอร์ด้วย ยิ่งหัวใหญ่ ก็จะยิ่งใช้แรงดันสูง และต้องการใช้น้ำเป็นจำนวนมาก
การเลือกใช้หัวสปริงเกอร์


ขอขอบคุณ: www.qrwater.com