วิธีเลือกซื้อพัดลมดูดอากาศ
ขั้นตอนที่ 1
ลักษณะห้อง - ถ้าเป็นห้องที่ปิดมิดชิด ควรติดแบบมีระบบดูดเข้า ออก ถ้าเป็นห้องที่มีการไหลเวียนของอากาศให้ติดแบบ มีระบบดูดออกอย่างเดียวได้ ห้องบางห้องอาจต้องการเพียงการดูดอากาศออกไป อย่างเดียวเช่น ห้องครัว
ขั้นตอนที่ 2
จุดติดตั้ง - ต้องพิจารณาที่ทิศทางการไหลเวียนของอากาศภายในห้อง ควรติดพัดลมระบายอากาศตรงด้าน ที่รับการไหลเข้าของอากาศในห้อง ถ้าผนังด้านนั้นสามารถดูดออกอากาศผ่านออกไปได้เลย ให้ใช้แบบติดผนังหรือแบบติดกระจก แต่ถ้าไม่สามารถระบายออกได้โดยตรงต้องติดแบบฝังเพดาน
ขั้นตอนที่ 3
ขนาดของห้อง - วิธีการคำนวณเพื่อเลือกขนาดหรือร ุ่นของพัดลมระบายอากาศ ตามขนาดปริมาตรอากาศภายในห้องคือ ปริมาตรของห้อง = กว้าง x ยาว x สู ง (หน่วยเป็นเมตร) ขนาดที่ต้องใช้หรือ CMH = ปริมาตรของห้อง x ค่ามาตรฐาน - CMH = คิวบิค (ลูกบาศก์) เมตร ต่อชั่วโมงสามารถเปลี่ยนหน่วยเป็นคิวบิคฟุตต่อชั่วโมง หรือ CFH โดยการคูณ CMH ด้วย 35.32 หรือลดหน่วยต่อชั่วโมงเป็นต่อนาที โดยการหารด้วย 60 (ค่ามาตรฐาน คือ ตัวเลขที่สัมพันธ์กับอัตราการระบายของอากาศที่ควร จะเป็นในห้องแต่ละประเภท) ห้องครัวควรใช้ค่ามาตรฐานที่ 15 , ห้องน้ำควรใช้ค่ามาตรฐานที่ 10 , ห้องนั่งเล่นห้องนอนควรใช้ค่ามาตรฐานที่ 6 ควรเลือกรุ่นที่มีขนาด CFH สูงกว่าค่าที่คำนวณได้ เพื่อความมั่นใจว่าอัตราการระบายอากาศเป็นไปตาม ที่ต้องการ
วิธีติดตั้งพัดลมดูดอากาศ
ขั้นตอนที่ 1
กำหนดจุดติดตั้งพัดลมระบาย อากาศ โดยให้ตำแหน่งติดอยู่ตรงข้ามกับทิศที่ลมเข้า หรือใกล้กับจุดที่ ต้องการถ่ายเทอากาศสูงๆ ความสูงควรอยู่ประมาณ1.80-2.40 ม.
ขั้นตอนที่ 2
วัดขนาดหน้ากว้างของพัดลมและขีดทำเครื่องหมายที่ผนังขีดเป็นเส้นวัดให้ได้ระดับไม่เอียง
ขั้นตอนที่ 3
เจาะผนังด้วยสกัดและสว่านเจาะ กระแทก หากผนังนั้นเป็นคอนกรีตและแต่งขอบให้เรียบร้อย ทดลองนำพัด ลมระบายอากาศมาทาบดูให้พอดี หากเป็นผนังไม้ให้ใ ช้เลื่อยจิ๊กซอตัดผนังให้ตามแนว แล้วแต่งตามมุม อีกครั้งด้วยสิ่วและหนุนโครงไม้ด้านในด้วย กันผนังยุบเวลายึดพัดลม
ขั้นตอนที่ 4
ยึดพัดลมเข้ากับช่องที่เจาะโดย ถอดแกนกลางแยกพัด ลมออกเป็นด้านนอก-ด้านใน เจาะผนังยึดพัดลมเข้ากับผนัง ระวังตรวจสอบดูทิศทางการดูดเข้า-ออกของพัดลมให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการ ส่วนผนังปูนควร จะฝังพุกยึดสกรูในตอนยึดพัดลมด้วย
ขั้นตอนที่ 5
เดินสายไฟจากเมนส์ไฟที่ปลั๊กเดิมในจุดที่ใกล้ที่สุดโดยแนวสายไฟให้แนบตามมุมห้องให้มากที่สุด
ขั้นตอนที่ 6
ติดตัวปลั๊กที่ปลายสายไฟที่ต่อมาให้อยู่ใกล้ๆกับพัดลมดูดอากาศ
ขั้นตอนที่ 7
ทดลองเสียบและเปิดพัดลมระบายอากาศ ตรวจดูทิศทาง การดูดเข้า-ออก
วิธีทำความสะอาดพัดลมดูดอากาศ
ขั้นตอนที่ 1
เตรียมกระดาษหนังสือพิมพ์เก่า ไว้ เพื่อสำหรับวางส่วนประกอบต่างๆ ของพัดลมดูดอากาศที่ถอดออกมา เพื่อป้องกันคราบสกปรกต่างๆที่อาจจะเปื้อนได้
ขั้นตอนที่ 2
ถอดฝาปิดตัวใบพัด โดยหมุนตามเข็มนาฬิกา แล้วดึงใบพัดออกมา ควรสวมถุงมือป้องกันคราบสกปรกต่างๆ ระหว่างทำงาน
ขั้นตอนที่ 3
แล้วถอดฝาครอบตัวนอกของเครื่องออก จนเห็นตัวน๊อตที่ยึดกับตัวฐานของพัดลมออก โดยใช้ไขควง
ขั้นตอนที่ 4
หลังจากนั้น ดึงตัวฐานพัดลมออกมาจากฝาครอบตัวด้านในออก
ขั้นตอนที่ 5
ล้างทำความสะอาดตัวใบพัด และฐานพัดลมที่ถอดออกมาล้าง โดยใช้น้ำยาล้างจาน หรือผงซักฟอก ผสมน้ำ ใช้ฟองน้ำนุ่มๆเช็ดทำความสะอาด คราบสกปรกและคราบ น้ำมัน ต่างๆ ไม่ควรใช้สก็อตไบร์ทขัด เพราะอาจทำให้เกิดรอยได้ เมื่อแห้งจึงประกอบเข้าที่ตามเดิม
วิธีการดูแลรักษาพัดลมดูดอากาศ
ขั้นตอนที่ 1
ไม่ควรเปิดพัดลมดูดอากาศทิ้ง ไว้เมื่อไม่มีใครอยู่เปิดทิ้งไว้วันละ 1 ชั่วโมง(ใบพัด 6 นิ้ว 25 วัตต์) 1 ล้านเครื่องสิ้นเปลืองค่าไฟเดือนละ 1 .88 ล้านบาท ควรเปิดหน้าต่างเพื่อใช้ลมธรรมชาติ ช่วยถ่ายเทอากาศในห้อง
ขั้นตอนที่ 2
หมั่นทำความสะอาดใบพัดและ ตะแกรง อย่าให้มีฝุ่นเกาะและควรตั้งความเร็วพัดลมให้พอเหมาะ ไม่เร็วหรือช้าเกินไป จะช่วยให้อากาศถ่ายเทได้ดีและเป็น การประหยัดไฟอีกด้วย
ขั้นตอนที่ 3
ห้องที่จะติดเครื่องปรับอากาศ ควรเลือกติดตั้งขนาดพัดลมระบายอากาศให้เหมาะสมเพื่อสุขอนามัย และ ถ้าติดตั้งขนาดใหญ่เกินไปจะทำให้สิ้นเปลืองไฟได้
